ในเมืองริมฝั่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นท่าเรือสำหรับเรือประมงเก่าแก่ มีเรื่องเล่าที่ส่งผ่านกันมายาวนานเกี่ยวกับหลุมฝังศพที่ลึกลับซึ่งตั้งอยู่ในสุสานที่ถูกทอดทิ้งบนเนินเขา ตำนานเล่าว่าหลุมฝังศพนั้นถูกหล่อหลอมด้วยคำสาปและปริศนาที่ไม่มีใครสามารถแก้ไขได้ และได้เป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางหลังจากที่มีการค้นพบข้อความที่แกะสลักอย่างประณีตบนหลุมฝังศพดังกล่าว

อลิเซีย หญิงสาวผู้ที่มีความหลงใหลในการแก้ไขปริศนาและรหัสลับ ได้สืบทอดความสนใจนี้จากมารดาที่เป็นนักประวัติศาสตร์ หลังจากที่เธอได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับหลุมฝังศพและข้อความลึกลับนี้ อลิเซียจึงเดินทางไปยังสุสานนี้ด้วยความหวังว่าจะแก้ไขปริศนาที่เธอเชื่อว่าอาจนำไปสู่การค้นพบบางสิ่งที่มีค่ามากกว่าทองคำ

เมื่อเธอไปถึง อลิเซียพบว่าหลุมฝังศพนั้นถูกปกคลุมด้วยมอสและพืชพรรณที่ขึ้นอย่างรกทึบ แต่ข้อความที่แกะสลักยังคงอ่านได้อย่างชัดเจน มันเป็นคำที่เขียนด้วยภาษาโบราณที่ไม่ได้ใช้กันอีกต่อไป และดูเหมือนว่าจะเป็นรหัสที่มีความหมายซ่อนอยู่

จากการศึกษาข้อความที่เขียนบนหลุมฝังศพและการใช้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่เธอมี อลิเซียเริ่มต้นการล่าสมบัติในแบบฉบับของเธอเอง การค้นหานี้ได้พาเธอผ่านหลายงานศพที่ถูกจัดขึ้นในสุสานเก่านี้ แต่ละงานศพที่เธอเดินผ่านไปเธอก็ได้เรียนรู้เรื่องราวของผู้คนที่มีชีวิตอยู่ก่อนหน้านี้ และเรื่องราวเหล่านี้ได้ช่วยเธอเข้าใจข้อความที่ซ่อนอยู่

ในที่สุด อลิเซียก็ไขปริศนานั้นได้ และพบว่ารหัสลับที่เขียนไว้บนหลุมฝังศพเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนที่ที่นำไปสู่ห้องสมุดลับใต้ดินที่เต็มไปด้วยหนังสือโบราณและม้วนเอกสารที่ไม่มีใครเห็นมานานหลายศตวรรษ

ผ่านงานศพและหลุมฝังศพที่ลึกลับ อลิเซียได้เปิดเผยความลับที่ถูกซ่อนไว้จากนิรันดร์ และในขณะที่เธอเปิดหน้าหนังสือเล่มหนึ่งที่ไม่มีใครได้สัมผัสมาหลายร้อยปี เธอได้ตระหนักว่าบางครั้งความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเหล่านั้นไม่ได้ถูกซ่อนอยู่ในหีบศพที่ทองคำและอัญมณี แต่อยู่ในเรื่องราวและความรู้ที่ถูกปล่อยให้ลืมเลือนไปกับเวลา